วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ตอนที่ 2 อธิบายคำศัพท์ (หมายถึงการแปลคำศัพท์ ขยายความ อธิบายเพิ่มเติม ถ้ามีตัวอย่างให้ยกตัวอย่างประกอบ)

1. Globalization


     โลกาภิวัตน์ การที่ประชาคมโลกไม่ว่าจะอยู่ ณ จุดใด สามารถรับรู้ สัมพันธ์ หรือรับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว้างขวาง ซึ่งเนื่องมาจากการพัฒนาระบบสารสนเทศ

                                         
2.Entrepreneurship

    นักลงทุนทางการเงิน  ผู้บริหารกิจการ, นายจ้าง, นักวิสาหกิจ, นายทุน

                                          
3.Business Activities

   การประกอบธุรกิจ หมายถึง การผลิตสินค้าและบริการ และการนำสินค้าและบริการนั้นมาจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค ฉะนั้นถ้าการผลิตสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ได้ถูกนำมาใช้บริโภคเอง ไม่ได้นำไปขายหรือจำหน่ายจึงเรียกว่า การอุปโภคบริโภค (Consumption) ของตนเอง แต่ถ้าการผลิตสินค้าและบริการได้ถูกนำไปขายหรือจำหน่ายต่อไปจึงเรียกว่า การค้า (Commerces) / การประกอบธุรกิจ (Business Activities) สรุปก็คือว่า ธุรกิจ เป็นกระบวนการดำเนินกิจกรรมทางด้านการผลิต การจำหน่าย และการให้บริการนั่นเอง
                                              
4.Ongoing Process of Planning

    กระบวนการวางแผนเชิงกลยุทธ์ (Strategic Planning Process)
กระบวนการวางแผน คือ กระบวนการในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับสภาวะแวดล้อม องค์กรทั้งภายในและภายนอก วัตถุประสงค์และเป้าหมายที่คาดหวัง เพื่อให้องค์การเป็นและไปให้ถึงในอนาคต วิธีการเพื่อนำไปสู่จุดหมายที่ต้องการและการปฏิบัติที่คาดหวัง เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายนั้น สิ่งเหล่านี้คือ กระบวนการในการวางแผนซึ่งประกอบด้วย
1. การตั้งข้อสมมุติฐานเกี่ยวกับอนาคต ได้แก่ กระบวนการในการพิจารณา วิเคราะห์ ตัดสินใจ และคาดเดา เกี่ยวกับสภาวะแวดล้อมภายในและภายนอกองค์กร ทั้งในปัจจุบันตลอดจนโอกาสความน่าจะเป็นที่เป็นไปได้ในการเกิดเหตุการณ์ในอนาคต เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี สังคม การเมือง ซึ่งก่อให้เกิดโอกาสและข้อจำกัด ซึ่งมีผลกระทบต่อจุดอ่อนและจุดแข็งขององค์กร เพื่อแสวงหาทิศทาง วิธีการนำไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
2. การกำหนดวัตถุประสงค์ คือ การหาคำตอบของคำถามที่ว่า วิสัยทัศน์และภารกิจขององค์กรคืออะไร ? ขณะนี้องค์กรยืนอยู่ ณ จุดไหน ? ในอนาคตต้องการให้องค์กรเป็นอย่างไร ? อะไรคือเป้าหมายพื้นฐานและอะไรคือเป้าหมายเฉพาะ ? การกำหนดวัตถุประสงค์จะทำให้เห็นเป้าหมายที่ชัดเจน และทำให้วางแผนได้ชัดเจน แม่นตรง ต่อเป้าหมายที่วางไว้
                                         
5.Short-range Plan

  แผนระยะสั้น (Short range plan) คือแผนที่มีระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี

6.Organizing

การจัดองค์การ (Organizing)
        การจัดองค์การเป็นหน้าที่ทางการบริหารที่สืบเนื่องจากการวางแผน เมื่อองค์การจัดทำเป้าหมาย วัตถุประสงค์ ขององค์การและแผนกลยุทธ์แล้ว ผู้บริหารต้องออกแบบโครงสร้างองค์การเพื่อให้การบริหารบรรลุเป้าหมาย

7.Line Organization

      โครงสร้างองค์การตามสายงานหลัก  หมายถึงการจัดรูปแบบโครงสร้างให้มีสายงานหลัก และมีการบังคับบัญชาจากบนลงล่างลดหั่นเป็นขั้น ๆ จะไม่มีการสั่งการแบบข้ามขั้นตอนในสายงาน ซึ่งโครงสร้างแบบนี้เหมาะสมสำหรับองค์การต่าง ๆ ที่ต้องการให้มีการขยายตัวในอนาคตได้ เพราะเพียงแต่เพิ่มเติมโครงสร้างในบางสายงานให้มีการควบคุมบังคับบัญชาลดหลั่นลงไปอีกได้ การจัดองค์การแบบนี้ อาจจะคำนึงถึงสภาพของงานที่เป็นจริง เช่น แบ่งตามลักษณะของผลิตภัณฑ์ หรือแบ่งตามอาณาเขต หรือแบ่งตามประเภทของลูกค้า หรือแบ่งตามกระบวนการ ผลดีของโครงสร้างแบบนี้มีหลายประการ เช่น การจัดโครงสร้างด้วยรูปแบบที่เข้าใจง่าย การบังคับบัญชาตามสายงานเป็นขั้นตอน ฉะนั้นจุดใดที่มีการปฏิบัติงานล่าช้าก็สามารถตรวจสอบได้รวดเร็ว จากผู้บังคับบัญชาในระดับนั้นได้ง่าย นอกจากนั้นผู้ปฏิบัติงานได้คลุกคลีกับสภาพของปัญหาที่เป็นจริงและเกิดขึ้นเสมอ ทำให้การตัดสินใจต่าง ๆ มีข้อมูลที่แน่นอน และสามารถตัดสินใจได้ถูกต้องรวดเร็ว ซึ่งส่งผลสะท้อนให้มีการปกครองบังคับบัญชาที่อยู่ในระเบียบวินัยได้ดี การติดต่อสื่อสารและการควบคุมการทำงานทำได้ง่าย ตลอดจนเมื่อต้องการจะเปลี่ยนรูปโครงสร้างขององค์การก็สามารถที่จะเปลี่ยนได้ค่อนข้างสะดวก เพราะการจัดรูปแบบองค์การนี้ ไม่มีอะไรสลับซับซ้อนมากนัก ประการสุดท้าย องค์การนี้เหมาะสำหรับการจัดรูปแบบองค์การขนาดเล็ก แต่ไม่เหมาะที่จะจัดในลักษณะองค์การขนาดใหญ่ที่มีการปฏิบัติงานสลับซับซ้อน ส่วนข้อเสียของโครงสร้างแบบนี้นั้นได้ก่อให้เกิดปัญหาดังนี้คือ ประการแรก ไม่ได้สนับสนุนให้ผู้ทำงานมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน นอกจากนั้นบางขณะปริมาณของงานมีมาก จนต้องใช้เวลาทำงานประจำให้เสร็จ ไม่มีเวลาที่จะมาศึกษาถึงระบบการทำงานที่ดีกว่า อีกประการหนึ่งลักษณะของโครงสร้างเช่นนี้เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงาน เพราะไม่สามารถครอบคลุมขอบข่ายของงานได้ทังหมดได้ และประการสุดท้าย ผู้บริหารระดับสูงอาจจะไม่ยอมมอบหมายงาน ให้ผู้บริหารงานระดับรอง ๆ ลงมา หรือพยายามกีดกัน หรือส่งเสริมคนอื่นให้ขึ้นมาแทนตน ทำให้ขวัญของผู้ปฏิบัติงานในระดับรอง ๆ ไปไม่ดี หมดกำลังใจในการปฏิบัติงาน เนื่องจากโครงสร้างแบบนี้ให้อำนาจควบคุมโดยตรงต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงเท่านั้น

                                          

8.Standard Performance

       มาตรฐานการปฏิบัติงาน (Performance Standard) เป็นผลการปฏิบัติงานในระดับใดระดับหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นเกณฑ์ที่น่าพอใจ หรืออยู่ในระดับที่ผู้ปฏิบัติงานส่วนใหญ่ทำได้ การกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงาน จะเป็นลักษณะข้อตกลงร่วมกันระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชาในงานที่ต้องปฏิบัติ โดยจะมีกรอบในการพิจารณากำหนดมาตรฐานหลายๆ ด้านด้วยกัน อาทิ ด้านปริมาณ ด้านคุณภาพ ด้านระยะเวลา ด้านค่าใช้จ่าย หรือพฤติกรรมของผู้ปฏิบัติงาน เนื่องมาจากมาตรฐานของงานบางประเภทจะออกมาในรูปของปริมาณ ในขณะที่บางประเภทอาจออกมาในรูปแบบของคุณภาพองค์การจึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานให้เหมาะสมและสอดคล้องกับลักษณะของงานประเภทนั้นๆ
                                               
9.Preventive Control
      
      เป็นการควบคุมเพื่อป้องกันหรือลดความเสี่ยงจากความผิดพลาด ความเสียหาย เช่น การแบ่งแยกหน้าที่ การงาน กาควบคุมการเข้าถึงทรัพย์สิน
                                 
10.Corrective Control

         เป็นวิธีการควบคุมที่กำหนดขึ้นเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นให้ถูกต้อง หรือเพื่อหาวิธีแก้ไขไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดซ้ำอีกในอนาคต
                                       

วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ตอนที่ 1 อธิบาย (หมายถึง การให้รายละเอียดเพิ่มเติม ขยายความ ถ้ามีตัวอย่างให้ยกตัวอย่างประกอบ)

1.อธิบายความหมายของธุรกิจขนาดย่อม

     ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจองค์การภาคเอกชนได้เลิกกิจการและบางแห่งได้ลดจำนวนพนักงานลง ทำให้เกิดปัญหาการว่างงานโดยเฉพาะพนัหงานหรือเจ้าหน้าที่ธุรกิจของสถาบันการเงิน  บริษัทส่งสินค้าออก ฯลฯ  บุคคลเหล่านี้ต้องดิ้นรน  เพื่อแสวงหาอาชีพใหม่เลี้ยงดูดตนเองและครอบครัว  ธุรกิจขนาดย่อมจึงเป็นอาชีพน่าสนใจของผู้ประกอบการใหม่ที่ใช้เงินทุน  และแรงงานในระยะเริ่มแรกไม่มากนัก
      ธุรกิจขนาดย่อม หมายถึง  ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises) หรือ SMEs ซึ่งครอบคลุมกิจการการผลิต (ภาคอุตสาหกรรม  และภาคธุรกิจการเกษตร)  กิจการการค้า  (ค้าส่งและค้าปลีก)  และกิจการการบริการ
 
                                             

2.ลักษณะที่ดีของธุรกิจขนาดย่อมเป็นอย่างไร

      สามารถหารายได้จากเงินตราต่างประเทศได้ เป็นธุรกิจ SMEs ที่พึ่งตนเองได้ มีความว่องไวในการปรับตัว ใช้ทุนในการประกอบการไม่สูง เป็นธุรกิจที่ใช้ทักษะในการผลิต ใช้วัตถุดิบในการผลิตภายในประเทศ เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ และเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน

                               

3.สิ่งใดเป็นอุปสรรคของธุรกิจขนาดย่อม

  ขาดแหล่งเงิน เนื่องจากเป็นกิจการขนาดเล็ก จึงไม่ได้รับความสนใจจากสถาบันการเงิน
  ขาดความรู้ ทางด้านการจัดการ รวมถึงการเงิน บัญชี และการตลาดระหว่างประเทศ

                                      

4.ธุรกิจสามารถหาแหล่งเงินทุนได้จากที่ใดบ้าง อธิบายและยกตัวอย่างมา 2 แห่ง

    หน่วยงานของรัฐบาล และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่ให้การสนับสนุนเงินทุน
เช่นบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ธนาคารออมสิน

                                    

5.ธุรกิจขนาดย่อมสามารถฝึกอบรมความรู้เพิ่มเติมได้จากที่ใดบ้าง (บอกมา 2 ที่)

   สำนักพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน
   มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
      

6.การดำเนินธุรกิจขนาดย่อมควรออกมาในลักษณะใด

   ดำเนินธุรกิจแบบมีแผนงานและเป็นระบบ เนื่องจากการพัฒนาระบบที่ดีจะอำนวยประโยชน์ให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผน ติดตาม และควบคุมให้ดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ